แนะนำวิธีใช้ AWS ให้ถูกลงด้วย Reserved Instances

แนะนำวิธีใช้ AWS ให้ถูกลงด้วย Reserved Instances

Clock Icon2024.07.30

สวัสดีค่ะ ซาน่า นะคะ ครั้งนี้เราได้แปลบล็อกเกี่ยวกับ แนะนำวิธีใช้ AWS ให้ถูกลงด้วย Reserved Instances โดยมีต้นฉบับมาจากฝั่งญี่ปุ่นค่ะ ซึ่งเนื้อหาหลักเรายึดตามต้นฉบับเลย แต่จะมีการปรับเปลี่ยนคำอธิบายเพื่อให้ Beginner ทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ บล็อกนี้เราตั้งใจเขียนเป็นพิเศษเลย!!! หวังว่าจะมีประโยชน์กับผู้ใช้งาน AWS ทุกคนนะคะ


อย่างที่หลาย ๆ คนทราบกันว่า AWS มีวิธีการคิดค่าบริการแบบ pay-as-you-go แต่เนื่องจากค่าบริการที่ค่อนข้างสูงส่งผลให้มีราคาต้นทุนที่มากเกินไป บางทีอาจจะยังไม่ตอบโจทย์สำหรับบางคน คำถามต่อมาคือ “แล้วเราจะสามารถลดต้นทุนลงได้บ้างไหม?” คำตอบคือ ได้ค่ะ! หากเราซื้อ Reserved Instances จะได้รับส่วนลดมากที่สุดถึง 72% แต่ในขณะเดียวกัน ก็มีข้อจำกัดบางประการที่จะต้องระวังเมื่อใช้งาน ซึ่งในบล็อกนี้เราจะอธิบายทั้งข้อดี ข้อเสีย และข้อควรระวังในการใช้ Reserved Instances ค่ะ

AWS Reserved Instances (RI) คือ?

Reserved Instances คือการจองอินสแตนซ์ล่วงหน้า ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายได้ มีให้บริการบน Amazon EC2, Amazon RDS เป็นต้น โดยปกติ AWS จะคิดค่าบริการตามปริมาณและระยะเวลาที่ใช้อินสแตนซ์ ซึ่งเป็นวิธีเรียกเก็บค่าบริการแบบทั่วไปหรือแบบ On-Demand นั่นเอง แต่ Reserved Instances จะเก็บค่าบริการจากการจองพร้อมส่วนลดมากที่สุดถึง 72% โดยคิดตาม Region, Instance types, ระยะเวลาจอง เป็นต้น

ประเภทของ Reserved Instances

Reserved Instances มีให้เลือก 2 ประเภท คือ Standard และ Convertible ซึ่งมีข้อจำกัดและการคิดค่าบริการที่แตกต่างกัน ดังนั้น สิ่งสำคัญคือเราควรเลือกประเภทให้ตอบโจทย์กับโปรเจกต์หรือบริษัทของผู้ใช้งานนั่นเอง

Standard
ได้รับส่วนลดสูงถึง 72% ไม่สามารถเปลี่ยนสัญญาที่ซื้อไว้ได้ เช่น Instance types เป็นต้น

Convertible
ได้รับส่วนลดสูงถึง 54% สามารถเปลี่ยนสัญญา Instance types, ระยะเวลา, แพลตฟอร์ม (os) ในภายหลังได้ โดยมีเงื่อนไขคือราคาที่ทำสัญญาใหม่จะต้องเท่าเดิมหรือสูงกว่าสัญญาที่ทำไว้ในครั้งแรก

จุดเด่นของ Reserved Instances

หากกล่าวถึงจุดเด่นของ Reserved Instances เรียกได้ว่า “เป็นการรับส่วนลดโดยมีข้อผูกพันในระยะเวลาการใช้งาน” นั่นเอง ! สำหรับโปรเจกต์ที่มีการใช้งานในระยะยาว แนะนำให้พิจารณาใช้ Reserved Instance เป็นอันดับแรก

การเปลี่ยน Instance types มีข้อจำกัด ดังนั้น Reserved Instance จะตอบโจทย์สำหรับโปรเจกต์ที่ต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง 365 วัน, ระบบที่ทำงานอย่างเสถียร, สเปกไม่เปลี่ยนแปลงมาก กล่าวโดยสรุปคือ เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบที่ต้องทำงานตลอดเวลา ไม่เหมาะกับงานที่ทดสอบสภาพแวดล้อมเฉพาะเวลาที่จำเป็นนั่นเอง

ข้อดีและข้อเสียของ Reserved Instances

ข้อดีของ Reserved Instances

1.ช่วยลดต้นทุนบริษัท
ตามที่เราได้เขียนอธิบายไว้ด้านบนเลยค่ะ Reserved Instances คือการจองพร้อมรับส่วนลด นับเป็นการช่วยลดต้นทุนบริษัทนั่นเอง

2.เลือกวิธีการชำระเงินได้
วิธีชำระค่าบริการของ Reserved Instances มีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ
No upfront (จองโดยไม่ชำระล่วงหน้า แบ่งชำระรายเดือน )
Partial upfront (จองพร้อมชำระล่วงหน้าบางส่วนในช่วงเดือนแรก ในส่วนที่เหลือจะแบ่งชำระรายเดือน )
All upfront (ชำระล่วงหน้าทั้งหมดครั้งแรก)

Screenshot 2024-07-30 111032

ตัวอย่างราคาตามระยะการจอง (3 ปีจะได้ส่วนลดมากกว่า 1 ปี) ด้วย AWS Pricing Calculator

  • ค่าบริการ Reserved Instance สำหรับระยะเวลา 3 ปีอาจมีจำนวนมากจนส่งผลกระทบต่อการจัดงบประมาณประจำปีได้
  • All upfront นอกจากได้รับส่วนลดมากที่สุดแล้ว เป็นตัวเลือกที่คาดว่าจะได้รับการอนุมัติจากบริษัทได้ง่ายเนื่องจากชำระล่วงหน้าทั้งหมดครั้งแรก
  • No upfront แม้จะแบ่งชำระ แต่เราจะรู้ราคาที่ต้องจ่ายรายเดือนตั้งแต่ครั้งที่จองทำให้ง่ายต่อการจัดงบประมาณเช่นกัน ซึ่งต่างจากการชำระแบบ On-Demand

ข้อเสียหรือข้อจำกัดในการใช้ Reserved Instances

1.ไม่สามารถยกเลิกการจองได้
Reserved Instances ไม่สามารถยกเลิกภายหลังได้ แม้จะบังเอิญกดจองไปแล้วก็ตาม ไม่ว่าจะเลือก Region หรือ Instance types ผิดก็ไม่สามารถยกเลิกการจองได้ ดังนั้น ควรระมัดระวังเมื่อกดจอง

2.ความยืดหยุ่นการใช้งานลดลง
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีค่ะว่า AWS สามรถปรับเปลี่ยนการตั้งค่าได้อยู่ตลอด เรียกได้ว่ามีการใช้งานที่ยืดหยุ่นมาก แต่สำหรับ Reserved Instances แล้วเนื่องจากจำเป็นต้องกำหนดสเปคก่อนจองและไม่สามารถเพิ่มขนาดในภายหลังได้ ความยืดหยุ่นจึงลดลงนั่นเอง ดังนั่น ไม่แนะนำให้ใช้งานบนโปรเจกต์ที่มีความผันผวนสูง

3.การชำระค่าบริการจะดำเนินต่อแม้ว่าเซิร์ฟเวอร์จะถูกระงับ
Reserved Instances ไม่สามารถยกเลิกกลางคันเช่นเดียวกับการยกเลิกหลังจองแม้ว่าเซิร์ฟเวอร์อาจถูกระงับจากปัจจัยภายนอก ซึ่งความเสี่ยงนี้สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน

ข้อควรระวังเมื่อใช้ Reserved Instances

หากเข้าใจเงื่อนไข Reserved Instances และนำไปใช้งานให้เหมาะสมจะช่วยลดต้นทุนบริษัทได้อย่างมาก แต่บางคนก็อาจจะกังวลเรื่องการใช้งาน ทีมงานจึงได้รวบรวมคำถามต่าง ๆ โดยอ้างอิงมาจาก Inquiry ดังนี้

Q. ต้องการซื้อ Reserved Instances ไปใช้งานกับ Instances ที่ใช้อยู่ปัจจุบัน จำเป็นต้อง Restart หรือดำเนินการใด ๆ ไหม?
ไม่จำเป็นต้อง Restart หรือทำการดำเนินการเพิ่มเติม การจอง Reserved Instances นั้นเปรียบเสมือน "การซื้อส่วนลด" ซึ่งจะถูกนำไปใช้กับ Instances ที่เข้ากับเงื่อนไขการจองโดยอัตโนมัติ สรุปคือนอกจากการซื้อ Reserved Instances แล้วไม่จำเป็นต้องดำเนินใด ๆ เพิ่มเติมกับ Instances ที่กำลังทำงานอยู่

Q. มี AWS หลายบัญชี แต่สั่งซื้อ Reserved Instances ผิดบัญชี สามารถยกเลิกได้หรือไม่?
ตามที่ได้กล่าวไว้ Reserved Instances ไม่สามารถยกเลิกภายหลังได้ การซื้อผิดบัญชีจะไม่สามารถย้ายไปอีกบัญชีได้ ดังนั้น ควรตรวจเช็คความถูกต้องก่อนสั่งซื้อ

Q. ซื้อ Reserved Instances สำหรับ SQL Server แบบ Single-AZ ใน Amazon RDS ไป หากเปลี่ยน Instances เป็น Multi-AZ จะเกิดอะไรขึ้น?
ใน Amazon RDS หากมี DB engine และ instance family เป็นอันเดียวกัน จะสามารถใช้ราคาของ Reserved Instances แบบ Single-AZ ไปใช้กับค่าบริการของ Multi-AZ ได้ แต่เนื่องจาก SQL Server เป็นข้อยกเว้น เมื่อเปลี่ยนเป็น Multi-AZ แล้วจะไม่ได้รับส่วนลดจาก Reserved Instances อีกต่อไป

บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

この記事をシェアする

facebook logohatena logotwitter logo

© Classmethod, Inc. All rights reserved.